อุปกรณ์ป้องกันดวงตา สามารถแบ่งได้ตามประเภทการใช้งาน ดังนี้

1.แว่นครอบตา
แว่นครอบตา อาจแบ่งย่อยออกไปอีก ตามลักษณะของการใช้งาน ได้ดังนี้:
1.1 แว่นครอบตาสำหรับใช้กับงานเจียร์ (IMPACT GOGGLE):
โดยปกติทั้งตัวกรอบแว่นและเลนส์ ทำด้วยพลาสติกใส ลักษณะของแว่นครอบตาชนิดนี้จะมีรูพรุนเล็กๆ เป็นจำนวน มากอยู่โดยรอบกรอบแว่น (เพื่อ ระบายความร้อนที่ออกจากผู้ใช้ ไปสู่ภายนอกแว่นในขณะปฏิบัติงาน เลนส์ของ แว่นจะมีลักษณะเป็นแผ่นเดียวกันตลอด ไม่แยกจากกัน มีความหนาโดยเฉลี่ยไม่น้อยกว่า 0.04 นิ้ว สำหรับไว้ ป้องกันฝุ่นหรือเศษของวัสดุที่เจียร์ เช่น หิน เหล็ก พลาสติก ไฟเบอร์กลาส ฯลฯ
1.2 แว่นครอบตาสำหรับใช้กับงานเจียร์ และป้องกันสารเคมี (CHEMICAL & IMPACT GOGGLE):
แว่น ครอบตาชนิดนี้เป็นที่นิยมใช้กันมากกว่าชนิดแรก เพราะสามารถใช้งานได้มากกว่า กล่าวคือ ใช้สำหรับป้องกัน สารเคมีกระเซ็น และเศษหรือฝุ่นจากงานเจียร์ปลิวเข้าตา ลักษณะโดยทั่วไปของแว่นครอบตาชนิดนี้คล้ายกับชนิด แรกจะต่างกันก็เพียงการระบายความร้อนออกสู่ภายนอกแว่นเท่านั้น กล่าวคือแว่นครอบตาชนิดนี้จะใช้ลิ้นระบาย (EXHAUST VALVE) ระบายความร้อนออกสู่ภายนอกแว่นแทน ซึ่งโดยมากจะมีอยู่ด้วยกัน 4-6 ลิ้นรอบกรอบ แว่น ส่วนเลนส์จะเป็นชนิดเดียวกันกับชนิดแรก
1.3 แว่นครอบตาสำหรับใช้ป้องกันสารเคมี ควันและงานเจียร์ (CHEMICAL SPLASH GOGGLE):
แว่น ครอบตาชนิดนี้ จะมีลักษณะแตกต่างออกไปจากแว่นทั้งสองชนิดที่กล่าวมาแล้ว ตัวกรอบแว่นจะมีลักษณะ กว้างและโค้งแนบกับใบหน้าได้ดีกว่า และไม่มีลิ้นรูระบายความร้อน เลนส์จะมีลักษณะโค้งไปตามกรอบแว่น เนื่องจากแว่นชนิดนี้ไม่มีรูระบายความร้อน แต่ใช้ระบบการระบายความร้อนออกจากตัวแว่น ด้วยวิธีไหลผ่านจาก เลนส์สู่กรอบแว่นสู่ภายนอกแทน (INDIRRCT VENT) ดังนั้นแว่นชนิดนี้จึงเหมาะสำหับใช้กันควัน สารเคมีและ บริเวณที่มีฝุ่น หรือเศษของชิ้นงานจากงานเจียร์จำนวนมากได้ดีกว่าชนิดที่ 1 หรือ 2
1.4 แว่นครอบตาสำหรับเชื่อม (WELDING GOGGLE):
กล่าวคือ จะใช้ลิ้นระบายความร้อนออกจากแว่นเหมือนกัน จะต่างกันก็เพียงเลนส์ที่ใช้มักจะเป็นชนิดเลนส์แยกทำ ด้วยแก้วชุบแข็ง (HARDEN GLASS) มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ:
1.4.1 ชนิดเลนส์ติดตายกับตัวกรอบแว่น (FIXED LENS WELDING GOGGLE):
แว่น เชื่อมชนิดนี้จะมีเลนส์ติดตายอยู่ที่ตัวกรอบแว่น มีข้อดีคือ อายุการใช้งานยาวนาน ข้อเสียคือ ไม่สะดวกต่อผู้ ปฏิบัติงานมากนัก เวลาจะเคาะรอยตะเข็บเชื่อมต้องถอดแว่นออก
1.4.2 ชนิดเลนส์ปิด-เปิดได้ (FLIP-UP WELDING GOGGLE):
แว่น เชื่อมชนิดนี้จะมีเลนส์ขึ้นลง ปิด-เปิด ข้อดีและข้อเสียจะตรงกันข้ามกับชนิดแรก ปัจจุบันแว่นเชื่อมชนิดนี้เป็น ที่นิยมใช้กันมากกว่าชนิดแรก
แว่นครอบตาสำหรับงานเชื่อมทั้ง 2 ชนิด ดังกล่าวข้างต้นเหมาะสำหรับการเชื่อมแก๊สเท่านั้น ไม่ควรนำ มาใช้กับงานเชื่อมไฟฟ้า
อนึ่ง ความเข้มของกระจกเชื่อมที่ใช้จะแตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความหนาของชิ้นโลหะที่เชื่อม ชนิดของ โลหะ ฯลฯ โดยจะมีความเข็มที่ใช้แตกต่างกันออกไปดังนี้คือ
ตารางแสดงลักษณะงานกับขนาดของเลนส์
ลักษณะงาน |
ชนิดของเลนส์
(SHADE NUMBER) |
1. ผู้ปฏิบัติงานใกล้งานเชื่อมและตัด |
2 |
2. งานเชื่อมทองเหลือง บัดกรี |
3-4 |
3. งานตัดหรือเชื่อมด้วยอ๊อกซิเจนหรือก๊าซชิ้นงานหนาไม่เกิน 1/8 นิ้ว |
4-5 |
4. งานตัดหรือเชื่อมด้วยอ๊อกซิเจน หรือก๊าซ ชิ้นงานหนามากกว่า 1/2 และงานเชื่อมไฟฟ้าน้อยกว่า 30 แอมป์ |
5-6 |
5. งานเชื่อมด้วยก๊าซ ชิ้นงานมากกว่า 1/2 นิ้วและงานเชื่อมไฟฟ้า 30-75 แอมป์ |
5-8 |
6. งานเชื่อมไฟฟ้า 75-200 แอมป์ |
10 |
7. งานเชื่อมไฟฟ้า 200-400 แอมป์ |
12 |
8. งานเชื่อมไฟฟ้า มากกว่า 400 แอมป์ |
14 |
แว่น ครอบดังกล่าวทั้งหมดนี้เป็นเพียงแว่นครอบตาชนิดหลักที่ใช้กันอยู่ทั่วๆ ไปในโรงงานอุตสาหกรรมเท่านั้น ยังมีแว่นครอบตาที่ใช้เฉพาะงานอยู่อีกมากมายหลายประเภท ซึ่งมีรูปลักษณะแตกต่างกันออกไปตามจุดประสงค์ ของการใช้งาน อนึ่ง แว่นครอบตาทุกชนิดควรมีมาตรฐานความปลอดภัยรับรอง อาทิเช่น ANSI 87.2-1989, B.S2092-2 DIN.4647 ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจว่าได้สินค้าที่ใช้มีคุณภาพและมาตรฐานจริงๆ
2.แว่นตานิรภัย (SAFETY GLASSES)
ลักษณะ ของแว่นตานิรภัย จะมีลักษณะ คล้ายคลึงกับแว่นสายตา หรือ แว่นแฟชั่นโดยทั่วๆ ไป ต่างกันเพียงเลนส์ที่ใช้และมีกระบังข้างตรงกรอบแว่นตาเพิ่มขึ่นเท่านั้น
จุดประสงค์ของการใช้แว่นตานิรภัย: แว่นตานิรภัยมีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้สวมใส่ สามารถป้องกันนัยน์ตาจากงาน ต่างๆ ดังนี้
1. งานกลึง
2. งานประกอบชิ้นส่วน (รถยนต์ ฯลฯ)
3. งานเชื่อมโดยวิธียิงด้วยไฟฟ้า
4. งานในห้องแล็บ
5. งานหล่อโลหะ
วิธีการทดสอบเลนส์ของแว่นนิรภัย :
ตามมาตรฐานสถาบันมาตรฐานความปลอดภัยอเมริกา ข้อที่ ANSI Z 87.1-1963 (ANSI = AMERICAN NATIONAL STANDARD INSTITUTE) กล่าวไว้ดังนี้
“นำเลนที่จะทดสอบมาไว้ยังฐานซึ่งอยู่ในแนวราบ (HORIZONTAL LEVEL) จากนั้นกาลูกเหล็กที่มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 1 นิ้ว น้ำหนักของลูกเหล็ก 2.4 ออนซ์ วัดระยะห่างของลูกเหล็ก และจุดศูนย์กลางของเลนส์มี่จะทดสอบ ให้ห่างกันประมาณ 50 นิ้ว (1.30 เมตร) จากนั้นให้ปล่อยลูกเหล็กทิ้งลงมาอย่างอิสระลงบนผิวหน้าตรงจุดศูนย์กลางเลนส์ ถ้าหากเลนส์ที่ทดสอบไม่มีรอยร้างใดๆ เกิดขึ้น ถือว่าเลนส์ดังกล่าวเป็นเลนส์นิรภัยได้”
|